ทุก ๆ ครั้งที่ต้องย้ายงานหรือเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในสายงาน ย่อมเต็มไปด้วยความคาดหวังในทางที่ดีมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ หากงานเดิมของคุณมันดีหรือ Fullfill อะไรบางอย่างให้เราได้ การเลือกที่จะเดินไปสู่อะไรใหม่ ๆ คงไม่เกิดขึ้น
แน่นอนว่า “ความคาดหวัง” ของแต่ละคน ย่อมแตกแยกย่อยได้ออกเป็นหลายรูปแบบ ทั้งตัวงานที่ชาเลนจ์ ท้าทายความสามารถมากขึ้น เปลี่ยนงานเบื่อคนในทีม หรือเลือกที่ทำงานที่สะดวกกับการเดินทาง ใกล้บ้านกว่าเดิม จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีเรื่องของ “เงินเดือน” เข้ามาเป็นสิ่งเย้าด้วยแน่นอน ทว่าเปอร์เซ็นต์น้ำหนักจะมากจะน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่คนอีกเช่นกัน
ในทางกลับกัน หากคุณย้ายงานแล้ว ทว่าเงินเดือนที่เรียกไปนั้นได้เท่าเดิม คุณยังจะอยากย้ายงานอยู่ไหม? ยังคุ้มค่าที่จะก้าวขาไปเจอกับความเสี่ยงที่พร้อมเปลี่ยนแปลงหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบให้คุณ!
ย้ายบริษัทเงินเดือนเท่าเดิม ตัดสินใจอย่างไรดี?
ร้อยทั้งร้อย ไม่ว่าใครที่เจอเข้ากับข้อเสนอย้ายงานแต่เงินเดือนเท่าเดิม คงต้องมีชะงักกันเป็นปกติ จากการสั่งสมประสบการณ์ที่มากขึ้น ความช่ำชองในสายงาน ค่าตอบแทนควรจะต้องแปรผันตามอายุงานด้วยเช่นกัน จากที่มั่นใจก็เริ่มลังเล อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่น ค่อย ๆ คิดและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนไปพร้อมกับเรา
บางทีคำตอบของการย้ายงาน อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือนเป็นใหญ่อย่างเดียวก็เป็นได้
Comfort Zone คือกับดักของการไม่เติบโต
ก่อนจะมองในแง่มุมอื่น ขอคุยกันแบบเคลียร์ ๆ แบบเปิดอกในเรื่องนี้ก่อน เชื่อว่าคนทำงานที่ทำมาได้สักระยะ คงติดอยู่ในกงล้อของคำว่า “Comfort Zone” อย่างแน่นอน ความสบายใจกับอาการอยู่ตัว เป็นสิ่งที่ทำให้คุณไม่อยากหลุดออกไปจากการใช้ชีวิตหรือทำงานในแบบเดิม ๆ หารู้ไม่ว่า การย่ำอยู่กับที่แต่ไม่ก้าวไปไหน คือกับดักสำคัญที่รั้งคุณไว้ไม่ให้เติบโต
ต่อให้งานใหม่ของคุณจะให้เงินเดือนเท่าเดิม แต่หากคุณพิจารณาภาพรวมแล้วว่า องค์กรใหม่ สายงานใหม่ มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้สูงกว่า ทั้งในเรื่องตัวงานและตัวเงิน แถมยังช่วยให้คุณหนีเพื่อนร่วมงานที่ Toxic ได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่พอให้คุณก้าวออกจากสิ่งเดิม ๆ ไปสู่สิ่งใหม่ที่ดูแล้วน่าจะสร้างสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
สุดท้ายแล้วไม่มีใครตอบคุณได้หรอกว่า การเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าไหม แต่การไม่ออกจาก Comfort Zone ที่คุณเองรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร ต่อความหวังนั้นจะแค่ 1% ก็อยู่ที่คุณเองว่าจะเลือกคว้ามันไว้ไหม
ชั่งน้ำหนักทบทวนข้อดีข้อเสียของงานเดิม เทียบงานใหม่
ขึ้นชื่อว่างาน ย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าตัวคุณเองถูกจริตกับสไตล์ไหนมากกว่ากัน แต่ละคนก็มีเรื่องที่รับได้มากน้อยไม่เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนที่จะย้ายงาน ลองตัดเรื่องเงินเท่าเดิมออกไปก่อน แล้วค่อย ๆ ฟังหัวในตัวเอง คิดช่างน้ำหนักเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างงานที่ทำอยู่ กับงานใหม่ได้ที่รับ Offer อย่างตรงไปตรงมา
จะลิสต์เป็นข้อ ๆ เพื่อความเข้าใจง่าย หรืออะไรก็ได้ บางครั้งการที่เราทำงานมานาน อาจจะทำให้คุ้นชินกับข้อเสียบางอย่างของงานเดิม จนมองว่าเป็นเรื่องปกติ บางครั้งการได้มีเวลาทบทวนก็เป็นสิ่งจำเป็น อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้เป็นไปตามที่เซ็ตโกลด์ไว้ไหม หรือกำลังเดินในเส้นทางที่อยากจะเป็นหรือเปล่า เชื่อว่าคำตอบสุดท้ายที่คุณตามหา ท้ายสุดแล้วก็จะได้มันออกมาเองแบบอัตโนมัติ (อย่าเชื่อหมอดูมากไป ให้ฟังเสียงหัวใจตัวเอง)
สวัสดิการและผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือน
ว่าด้วยเรื่องนามธรรมกับค่าตอบแทนต่าง ๆ ที่มาในรูปแบบของความก้าวหน้าในสายงานไปแล้ว ทีนี้มาดูสิ่งที่วัดได้เชิงประจักษ์กันบ้าง ถึงแม้เงินเดือนที่คุณเรียกบริษัทใหม่ไปนั้นจะได้เท่าเดิม ลองดูบริบทรายล้อมว่า มีค่าตอบแทนส่วนอื่น ๆ ที่มากกว่าบริษัทที่คุณทำอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งค่าตอบแทนบางอย่างก็ไม่ได้แสดงผลเป็นตัวเลขในเงินเดือนเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็น วงเงินประกันสุขภาพที่เบิกได้มากกว่าเดิม ค่าสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาตน วันลาพักร้อนที่ให้แบบจุกๆ การทำงานแบบ Work from home หรือมีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น โบนัสจ่ายสองครั้ง/ปี อาหารกลางวันฟรี เบิกค่าหนังสือ/ค่าเรียนได้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณได้ไม่น้อย โดยเฉพาะการทำงานแบบ WFH ประหยัดทั้งเวลาการเดินทางและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ถึงไม่ได้เงินเดือนเพิ่มแต่ก็จ่ายน้อยลง
Connection สร้างได้ด้วยตัวเอง
ความสามารถในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเติบโตในสายงานก็จริง แต่พลังของ Connection ก็ยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะผลักดันให้คุณไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็วขึ้นได้ไม่แพ้กัน
หากงานใหม่ของคุณเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีทีท่าว่ากำลังจะเติบโตและไปได้ดีในอนาคต ทั้งยังเป็นองค์กรแถวหน้าที่เต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่หรือคนมีความสามารถ ปัจจัยเหล่านี้ก็เพียงพอให้คุณก้าวไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้แบบไม่ต้องลังเล ต่อให้เงินเดือนจะได้เท่าเดิมหรือน้อยลงกว่าเดิม แต่การเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมของคนเก่ง คนมีความสามารถ สิ่งที่ได้กลับมาเป็น “ต้นทุนชีวิต” ที่คุณไม่สามารถใช้เงินซื้อได้
ทั้งเรื่องประสบการณ์การทำงาน การแก้ไขปัญหา สิ่งดี ๆ ที่คุณจะได้ซึมซับจากทำงานกับคนเก่ง ๆ เหมือนที่ใครว่าเอาไว้ เราอยากเป็นคนแบบไหน ให้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมนั้น ๆ ไม่นับเรื่อง Connection ต่าง ๆ ที่ได้ติดไม้ติดมือมาอย่างแน่นอน
Cr. Jobsdb