การทำงานที่เดิมเป็นระยะเวลานานๆ หรือลักษณธงานที่คงเดิมไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมักจะเรียกพื้นที่แบบนี้ว่า Comfort Zone พื้นที่ปลอดภัยในการทำงานที่หลายๆ คนไม่อยากออก หรือ “พื้นที่ปลอดภัย” เป็นคำที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อาจจะเพราะด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และสมาร์ทโฟน ที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Technology Disruption” ยิ่งการเกิดขึ้นของโรคระบาดโควิด-19 ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นตัวเร่งให้คนทั้งโลกต้องปรับตัวเพื่อก้าวให้ทันโลกยุคใหม่ที่ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อันเป็นที่มาของการพูดถึงเรื่อง “ถ้าอยากตามให้ทันโลก ต้องกล้าออกจากพื้นที่ปลอดภัย” แต่รู้ไหมว่า ยังมีงานและอาชีพบางประเภทที่ไม่จำเป็นต้องออกจากพื้นที่ปลอดภัยก็ได้ ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในโลกที่มี disruption เกิดขึ้นทุกวัน
พื้นที่ปลอดภัยคืออะไร ?
ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับพื้นที่ปลอดภัยกันก่อน ความหมายที่แท้จริงของพื้นที่ปลอดภัยคือ พื้นที่คุ้นเคยที่ทำให้เรารู้สึกสบายและเคยชิน เปรียบเหมือนกับบ้านที่เราอยู่มานาน รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน รู้ว่าจะไปตลาด หรือไปทำงานทางไหนใกล้และรวดเร็วที่สุด จนเกิดความสบายและเคยชินจนไม่รู้สึกอยากย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งพอเอามาใช้กับงาน ก็จะหมายถึง งานที่เราคุ้นชิน งานที่ทำเป็นประจำ อาจจะเป็นงานที่ให้ผลตอบแทนที่เราพอใจ เพื่อนร่วมงานก็ดี ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราลำบาก จนทำให้เรารู้สึกสบายกับงานนี้ จนไม่คิดอยากเปลี่ยนแปลง และนี่เองเป็นเหตุผลที่หลายคนบอกว่าเราอาจจะหยุดพัฒนาตัวเองได้ ถ้าหากติดอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
Comfort zone ไม่ดีจริงหรือ ?
จริง ๆ แล้วพื้นที่ปลอดภัย ก็มีทั้งด้านดีและไม่ดี เหมือนกับเหรียญที่มี 2 ด้านเสมอ คนที่พร้อมก้าวออกจาก พื้นที่ปลอดภัยมักเป็นคนที่กล้าเปิดรับความคิดใหม่ ๆ และพร้อมรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ชีวิตจะสอนให้ แต่ประเด็นก็คือ ถ้างานที่เราทำอยู่ก็ดีอยู่แล้ว เรารู้สึกพอใจอยู่แล้ว แล้วเราจะออกจากพื้นที่ปลอดภัยทำไมล่ะ ยิ่งถ้างานที่เราทำอยู่ต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทางเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวเราเองก็มีอยู่ บวกกับการที่เราเองก็ไม่ได้มีความคิดปิดกั้น หรือไม่กล้าเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชีวิตเลย พร้อมที่จะเรียนรู้ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนงาน เพื่อก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองก็ได้
งานแบบไหนที่จะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยได้
อยากที่บอกไปแล้วว่า งานประเภทที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางคือ งานที่สามารถอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างสบาย เช่น อาชีพนักกฎหมาย อาชีพเกี่ยวกับการใช้ภาษา ล่าม นักแปล ครู หรือไกด์ท่องเที่ยว อาชีพนักออกแบบ สถาปนิก ศิลปิน อาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม พนักงานนวดหน้า ช่างทำเล็บ ช่างตัดผม แพทย์ศัลยกรรม แพทย์ผิวหนัง ทันตแพทย์ อาชีพเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ นักโภชนาการ นักกายภาพ จิตแพทย์ นักจิตบำบัด อาชีพผู้ผลิตงานฝีมือชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นช่างตัดเสื้อ ช่างทำเฟอร์นิเจอร์ ช่างปั้น ช่างทอ เชฟทำอาหาร และอาชีพที่ต้องใช้ความชำนาญเกี่ยวกับเครื่องจักรกลชั้นสูง ทั้งวิศวกร และช่างเทคนิคที่มีความชำนาญการมาก
อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยอย่างไรให้ปลอดภัย และอยู่ได้ตลอดไป
เมื่อเราพบพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง ที่งานที่ทำก็เป็นงานที่รักและให้ความสุข ให้ผลตอบแทนที่ดี ตรงกับไลฟ์สไตล์ รวมถึงเพื่อนร่วมงานก็ดี อยู่แล้วชีวิตแฮปปี้สุด ๆ ทำอย่างไรจะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยนี้ได้ตลอดไป คำตอบก็คือ หมั่นขยายพื้นที่ปลอดภัยของคุณอยู่เสมอ เช่น การหมั่นเติมความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับงานที่คุณทำอยู่ ฝึกฝนงานที่ทำอยู่ให้มีความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ใส่ใจรายละเอียดของงานอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาต่อยอดความสามารถของตัวเองไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ชนิดที่ว่าถ้าจะหาใครสักคนมาแทนที่คุณ คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
การอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่ได้หมายถึงการอยู่กับที่ ไม่เรียนรู้เพิ่มเติมเสมอไป มีหลายอาชีพเลยที่สามารถจะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยได้ตลอดไป ที่สำคัญคือ ต้องรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ขยายพื้นที่ปลอดภัยให้กว้างขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อนั้น ไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่ใน พื้นที่ปลอดภัยหรือไม่ ก็จะไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญอีกต่อไป