จากวันที่เรียนจบมหาวิทยาลัยถือว่าเป็นเหมือนวันแรกของการก้าวเข้าสู่ชีวิตจริงอย่างแท้จริง เพราะจะต้องเปลี่ยนจากชีวิตการเรียนเข้าสู่โลกแห่งการทำงานอย่างเต็มตัว เป็นช่วงก่อนเริ่มทำงานที่แท้จริง บางคนมีทิศทางหลายอย่าง เช่น การเป็นพนักงาน การทำงานในองค์กรรัฐ หรือ ฟรีแลนซ์ เป็นต้น หลาย ๆ คนคาดหวังว่าจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิต ที่ในแง่การได้ทำงานที่ใช่ มีความสุขกับการทำงาน และคาดหวังผลตอบแทนที่เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้
แต่คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ยังสับสน ไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะไปทางไหน ทำอาชีพอะไรดี มาตั้งคำถามที่จะช่วยให้คุณสามารถตอบโจทย์ชีวิต และอนาคตในโลกของการทำงานต่อจากนี้ ที่จะกลายมาเป็นแผนที่ชีวิตที่คุณสามารถร่างเองได้ก่อนสำเร็จการศึกษา อย่างแรกรู้อะไรไม่เท่า รู้จักตัวเอง ยังคงเป็นประโยคคลาสสิกที่ใช้ได้ดีอยู่เสมอ คำถามที่ต้องตอบให้ได้ก่อนเลยคือ เราเป็นคนยังไง มีจุดแข็ง-จุดอ่อนอะไรบ้าง ชอบหรือว่าไม่ชอบอะไร อะไรที่ทำได้ดี อะไรที่ทำแล้วมีความสุข ซึ่งคำตอบที่ได้จากคำถามเหล่านี้จะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น และพอจะมองเห็นอาชีพที่จะทำหลังเรียนจบได้ด้วย
เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้ว ก็มาเริ่มทดสอบกันว่าเรื่องที่เราคิดว่าเราทำได้ดี เราทำได้ดีจนคนอื่นสังเกตเห็นได้มั้ย ลองดูจากคนรอบ ๆ ข้างก็ได้ว่า เค้ามักจะชื่นชมเราในเรื่องอะไรบ้าง หรือสังเกตว่าคนรอบตัวเราพูดถึงเราอย่างไร ลองเก็บมานั่งคิดดูก็ได้ว่าเราเป็นแบบนั้นจริงมั้ย เรื่องไหนที่เราทำได้ดี คนรอบตัวก็บอกว่าดี เราจะพัฒนาต่อไปยังไงได้บ้าง หรือเรื่องไหนที่เรายังพลาดอยู่บ้าง เราจะทำยังไงให้ดีขึ้น พอเริ่มเห็นแล้วว่า หลังเรียนจบไปงานประเภทไหนที่เหมาะกับเรา ก็ถึงคำถามต่อไปเลยว่า เรามีเป้าหมายอะไร เช่น เราต้องการทำงานที่ต้องได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ก็จะทำให้เราพอมองเห็นแล้วว่าเราจะไปทำงานในองค์กรแบบไหนดี น้อง ๆ อาจจะเริ่มกำหนดเป้าหมายเป็นระยะก่อนก็ได้ เช่น 5 ปีแรกของชีวิตการทำงาน เป็นต้น พอเรามีเป้าหมายแล้ว เราก็มาเตรียมวางแผนการให้ไปถึงเป้าหมายเหล่านั้นกันได้เลย
ซึ่งก็คือการกำหนดเป้าหมายย่อย ๆ นั่นเอง เช่น จะมองหางานในเว็บไซต์ไหนบ้างที่จะมีงานที่ตรงกับที่เราต้องการ จะเขียนเรซูเม่อย่างไรให้ได้งาน จะต้องเสริมทักษะด้านไหนเป็นพิเศษมั้ย ถ้าจะให้ดี ลองกำหนดไปเลยก็ได้ว่า เดือนนี้เราต้องทำอะไรบ้าง ใช้เวลาทำเรซูเม่กี่วันดี หรือจะเป็นการแบ่งเวลาเพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในแต่ละวันก็ได้ เพราะการที่เราได้ทำสิ่งเล็ก ๆ ให้สำเร็จเป็นประจำ จะช่วยสร้างกำลังใจ และทำให้เป้าหมายใหญ่ของเราอยู่ไม่ไกลเกินฝันอีกต่อไป
แรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำงาน เพราะเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนให้เราสามารถตื่นเช้าไปทำงานได้ทุกวัน เราสามารถเริ่มได้จากการศึกษางานที่เราอยากทำว่ามีตรงส่วนไหนที่จะเป็นแรงบันดาลใจของเราได้บ้าง เช่น งานที่ทำแล้วรู้สึกดีคือ งานที่สร้างคุณค่าให้กับตัวเองและสังคม หรืองานที่ท้าทายและได้พัฒนาตัวเองตลอดเวลา คืองานที่สามารถทำให้เรามีแรงไปทำงานได้ทุกวัน เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของเราได้ทั้งสิ้น เผื่อวันไหนเราเหนื่อยกับงาน อาจจะลองกลับมานั่งคิดว่างานที่เราทำอยู่ให้คุณค่าอะไรกับเราบ้าง ก็จะทำให้เราหายเหนื่อยไปได้บ้างแน่นอน